ยุคของคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สามารถแบ่งออกได้โดยแบ่งส่วนประกอบของฮาร์ดแวร์ เป็น 5 ยุคด้วยกัน แบ่งได้ดังนี้
ยุคที่หนึ่ง (First Generation Computer) พ.ศ. 2489-2501
วัสดุที่ใช้สร้าง : วงจรอิเลคทรอนิคส์ และหลอดสุญญากาศ(vacuum tube)
ความเร็วในการทำงาน: second วินาที
สื่อข้อมูล: บัตรเจาะรู
ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้: ภาษาเครื่อง(Machine Language)
ตัวอย่างเครื่อง: UNIVACI, IBM650, NCR4102
ยุคที่สอง (second Generation computer) พ.ศ. 2502-2506
วัสดุที่ใช้สร้าง : ใช้ทรานซิสเตอร์แทนหลอดสูญญากาศ และใช้วงแหวนแม่เหล็ก(Magneticcore) เป็นหน่วย ความจำภายใน
ความเร็วในการทำงาน: millisecond หรือ หนึ่งในพันของวินาที
สื่อข้อมูล: บัตรเจาะรูและเทปแม่เหล็กเป็นส่วนใหญ่
ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้: ภาษาสัญลักษณ์(Smbolic Language) ภาษาแอสเวมบลี (Assembly)
ตัวอย่างเครื่อง: IBMI1620, IBM1401, CDC1604,Honeywell 200
ยุคที่สาม (third Generation computer) พ.ศ. 2507 – 2512
วัสดุที่ใช้สร้าง : ใช้ IC (Integrated Circuit) ซึ่ง สามารถทำงานได้เท่ากับทรานซิสเตอร์หลาย ร้อยตัว จึงมีขนาดเหล็ก
ความเร็วในการทำงาน: microsecond หรือ หนึ่งในล้านของวินาที
สื่อข้อมูล: บัตรเจาะรูและจานแม่เหล็ก
ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้: ภาษาโคบอล(COBOL)และพีแอลวัน(PL/1)
ตัวอย่างเครื่อง: IBMI360, CDC3300, NCR395
ยุคที่สี่ (Fourth Generation Computer) พ.ศ 2513 – 2532
วัสดุที่ใช้สร้าง : ใช้วงจรรวมขนาดใหญ่(LSl-Large Scale Integrated Circuit)
ความเร็วในการทำงาน: nanosecond หรือ หนึ่งในพันล้านของวินาที
สื่อข้อมูล: เทปแม่เหล็กและ จานแม่เหล็ก เป็นส่วนใหญ่ โดยมี การ ลดจำนวนการใช้บัตรเจาะรู
ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้: ภาษาเบสิค, ปาสคาล, ซี
ตัวอย่างเครื่อง: IBM 370, IBM 3033, CDC 7600, IBM PC (XT และ AT), UNIVAC 9700
ยุคที่ห้า (fifth Generation computer) พ.ศ. 2533 จนถึงปัจจุบัน
วัสดุที่ใช้สร้าง : ใข้วงจรรวมขนาดใหญ่มาก(VLSI-Very Large Scale Integrated Circuit) และมีหน่วยความจำหลักและหน่วยความจำรองที่มีขนาดใหญ่
ความเร็วในการทำงาน: picosecond หรือ หนึ่งในพันล้านของวินาที
สื่อข้อมูล: เทปแม่เหล็กและ จานแม่เหล็ก เป็นส่วนใหญ่
ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้: ภาษาเชิงวัตถุ(object-Oriented) เช่น C++, Java, Visual programming
ตัวอย่างเครื่อง: PC desktop และ Notebook ในปัจจุบัน